แบบทดสอบการเขียนสรุปความ
ตำนานพระธาตุดอยตุง
เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงที่มาของพระธาตุดอยตุง (หากปริวรรตตามต้นฉบับภาษาถิ่นล้านนาจะเขียนด้วยตัว
ท เป็น "ดอยทุง" ที่แปลว่า ธง หรือดอยธง คือธงตะขาบ
ดังปรากฏมีรูหินที่ในบริเวณใกล้กับพระธาตุ อันเป็นที่ปักเสาธงมาก่อน
ภาษาไทยกลางเขียนตามเสียงอ่านเป็น "ดอยตุง") ประดิษฐานบนดอยตุง อำเภอแม่สาย
จังหวัดเชียงราย บนความสูง ๑,๓๖๔ เมตรจากระดับน้ำทะเล หนังสือ
"ประวัติพระธาตุดอยตุง"(๒๕๓๖)
ที่รวบรวมโดยคณะกรรมการค้นคว้าวิจัยประวัติพระธาตุดอยตุง
ระบุถึงแหล่งข้อมูลลายลักษณ์ของตำนานพระธาตุดอยตุงว่า มีตำนาน ๒ ตำนาน
ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระธาตุดอยตุงและถ้ำต่าง ๆ คือ
๑)
ตำนานพระธาตุดอยตุง
๒) ตำนานถ้ำปุ่ม ถ้ำเปลวปล่องฟ้า
๒) ตำนานถ้ำปุ่ม ถ้ำเปลวปล่องฟ้า
เรื่องราวบางส่วนของตำนานพระธาตุดอยตุงและตำนานถ้ำปุ่มฯ
ยังปรากฏในตำนานอื่น ๆ เช่น ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ และตำนานสิงหนวัติ
และพบว่าไม่ปรากฏต้นฉบับเดิมของทั้งสองตำนานนี้ คงเหลือเพียงฉบับคัดลอกในใบลาน
ปกติมักจะพบตำนานทั้งสองนี้อยู่ในฉบับเดียวกัน โดยจะเขียนตำนานดอยตุงก่อน
แล้วตามด้วยตำนานถ้ำปุ่มฯ บางฉบับนอกจากจะมีตำนานทั้งสองเรื่องแล้ว
ยังมีเรื่องอื่นรวมอยู่ด้วย
เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยคาถาภาษาบาลี กล่าวถึงพระพุทธเจ้า ๔
พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัปนี้ หลังจากบิณฑบาตที่เมืองราชคฤห์
และเมืองมิถิลาแล้ว ทุกพระองค์ก็ได้เสด็จมายังภูเขานี้ และประทับนั่งบนยอดเขา
ในอนาคตพระศรีอริยเมตไตรยก็จะทรงมีพระจริยวัตรอย่างนี้เช่นกัน
จากนั้นกล่าวถึงครั้งสมัยพุทธกาลว่า
ยังมีภูเขาอยู่ ๓ อัน ตั้งอยู่ปัจฉิมทิศแห่งชยบุรี (ต้นฉบับใบลานใช้คำว่าภูเขา
ลักษณะนามคือ อัน) อันหนึ่งชื่อว่า ภูเขาท่า ตั้งอยู่ทางทิศอุตตรกล้ำเหนือ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) อันหนึ่งชื่อว่า
ภูเขาย่าเจ้า อยู่ท่ามกลาง อันหนึ่งชื่อว่า ภูเขาปู่เจ้า ตั้งอยู่ทางทักขิณะ
ลำดับกันเป็นก้อนเส้าประสุมกัน
มีนิทานของภูเขา ๓ ก้อนนี้ ว่าในสมัยพุทธกาล
ยังมีมิลักขุผัวเมียคู่หนึ่ง ผัวชื่อว่า ปู่เจ้าลาวจก เมียชื่อ ย่าเจ้าลาวจก
ทั้งสองมีจกเจา (จอบ) คนละ ๕๐๐ ลูก จึงได้ชื่อว่าลาวจก ปลูกถั่วปลูกงาไปขายแก่ชาวเมืองหาเลี้ยงชีพ
ทั้งสองเป็นใหญ่แก่มิลักขุทั้งหลาย ปู่เจ้าอยู่ในดอยมหาธาตุแห่งนั้น
จึงเรียกชื่อดอยนั้นว่า ดอยปู่เจ้า ส่วนเมียอยู่ดอยทางเหนือถัดไป
จึงเรียกว่าดอยย่าเจ้า นั่นแลสองผัวเมียมีลูกชาย ๓ คน ชื่อ ลาวหม้อ ลาวล้าน และลาวกลิ่นรส
อาศัยอยู่ดอยลูกทางเหนือ จึงมีคนเอาของไปค้าขายกันที่นั่น จึงได้ชื่อว่า ดอยท่า
เพราะเป็นท่าค้าขายของ นั่นแล จากนั้นกล่าวถึงเรื่องที่มาของชื่อตลาด และ ชื่อเมือง ว่ามาจากชื่อที่เกิดจากการค้าขาย
เช่น กาดไล่ เมืองบวบ เป็นต้น จากนั้นกล่าวถึงการให้ลูกทั้งสามไปครองเมืองต่าง ๆ
คือ เมืองสี่ตวง เมืองคว้าน และเมืองเอก
ตามลำดับในครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าเดินจงกรมอยู่ที่ตีนเขาคิชฌกูฏ
พระเทวทัตเถระคิดจะกำจัดทำร้ายพระองค์ เพื่อจะได้ขึ้นเป็นพระพุทธเจ้าแทน
จึงกลิ้งหินก้อนใหญ่ลงจากเขาใส่พระองค์ แต่พระพุทธเจ้ามีบุญสมภารมาก จึงมีหินอีกก้อนหนึ่งกลิ้งมาบังไว้
แต่ด้วยมีความเมตตาไม่ให้พระเทวทัต อกแตกตาย
พระองค์จึงเหยียดเท้าให้ถูกหินก้อนหนึ่งเป็นแผลจ้ำเลือด
หมอชีวกกุมารจึงมารักษาให้พระองค์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น